ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม ซาน ซิโร่, อิตาลี
ผู้ชมในสนาม 78,500 คน
รายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
เวลา 01.45 น. วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤษภาคม 2550
ผู้ตัดสิน แฟรงค์ เดอ บรีคเคียร์
เอซี มิลาน จะเข้าไปพบกับลิเวอร์พูล ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ หลังจากเพิ่งเอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ในซาน ซิโร่ 3 – 0 หลังจากในนัดแรกมิลาน ไปพ่ายต่อแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด 3 – 2 สรุปประตูรวมมิลานชนะ 5 – 3
โดยมิลานได้ประตูแรกจากการต่อบอลจาก คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ ให้กับ กาก้า ยิงเข้าประตูไปในนาทีที่ 11 ตามด้วยลูกยิงของ เซดอร์ฟ ในนาทีที่ 30 และปิดท้ายด้วยลูกหลุดเดี่ยวของ อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่
เมื่อจบการแข่งขัน ก็ทำให้ความฝันของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่จะคว้า 3 แชมป์เหมือนปี 1999 ก็สลายลง และตอนนี้พวกเขาก็เหลือลุ้นเพียง 2 แชมป์เท่านั้นคือพรีเมียร์ ลีก และเอฟเอ คัพ
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เนมานย่า วิดิช กลับมาลงสนามให้กับทีมได้หลังจากหายจากอาการกระดูกหัวไหล่แตกโดยเขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริง รวมทั้ง เฟล็ตเชอร์ ที่ได้ลงเล่นเป็น 11 ตัวแรกในนัดนี้
ครึ่งแรกสายฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนักในซาน ซิโร่ แต่ทีมเจ้าบ้านก็ดูเหมือนจะไม่เสียจังหวะ แถมยังเล่นได้ดี และบอลก็เข้าทางพวกเขาอยู่เสมอ ในขณะที่ทีมเยือนดูเหมือนจะเล่นไม่ออกเลยในครึ่งแรก
มิลานได้บุกก่อนตั้งแต่นาทีแรกเมื่อกาก้า ได้เปิดบอลเข้ามาหน้าประตู แต่โชคดีที่ไม่มีใครเข้าถึงบอลทำให้บอลเลยออกหลังไป จากนั้น นาทีที่ 3 เซดอร์ฟ ก็ทำให้ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ต้องแรงเซฟเมื่อลูกยิงของเขามุดต่ำและจะเสียบใต้คาน แต่โชคดีที่ ฟาน เดอร์ ซาร์ ยังปัดไว้ได้ ต่อมานาทีที่ 7 กาก้า ก็ได้ยิง แต่บอลก็ไปตรงตัวผู้รักษาประตูแมนฯ ยูไนเต็ด
แต่แล้วการบุกของมิลาน ก็เป็นผลในที่สุด เมื่อถึงนาทีที่ 11 เซดอร์ฟ ได้โหม่งบอลต่อให้กาก้า ได้ยิงด้วยเท้าซ้ายบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม ถือเป็นประตูที่ 10 ของกาก้า ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ มิลานขึ้นนำ 1 – 0 สกอร์รวม 3 – 3
ทางด้านแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดูเหมือนจะเล่นไม่ออก ทั้งคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซึ่งนัดนี้ลงเล่นในฝั่งซ้ายก็เล่นลำบากเพราะถูกเข้าบอลเร็วตลอดโดย กัตตูโซ่ ส่วนไรอัน กิ๊กส์ ก็แทบจะหายไปจากเกม และเวย์น รูนี่ย์ ก็จ่ายบอลพลาดหลายๆ ครั้ง แต่ก็ยังโชคดีที่เขาไม่พลาดหน้าประตู
แต่แล้วในนาทีที่ 30 จากความผิดพลาดของกองหลังแมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มจากการจ่ายบอลคืนหลังจาก กาเบรียล ไฮน์เซ่ ให้กับวิดิช แต่วิดิช กลับลื่นล้มทำให้ ปิร์โล่ ตัดบอลไปได้และเปิดบอลต่อให้กับ เซดอร์ฟ ได้ยิงเข้าประตูไปในมุมเดียวกับประตูแรกที่กาก้า ทำได้ มิลานขึ้นนำ 2 – 0
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงเล่นเกมของตัวเองไม่ได้และไม่สามารถสร้างปัญหากับมิลาน ได้เพียงพอ จนกระทั่งจบครึ่งแรก มิลาน นำอยู่ 2 – 0
เริ่มครึ่งหลัง แฟนแมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มมีกำลังใจมากขึ้นเมื่อทีมของพวกเขาเล่นได้ดีขึ้น ครองเกมได้มากขึ้น และได้บุกหลายๆ ครั้ง ทำให้แฟนๆ หลายคนอดที่จะฝันให้เกิดเหตุการณ์เหมือนนัดชิงชนะเลิศปี 1999 ไม่ได้ แต่มิลานก็ยังคงรักษาเกมรับได้ดีโดยตลอด
เกมในนัดนี้ กัตตูโซ่ เล่นได้ดีมากและป้องกันการลากเลื้อยของโรนัลโด้ ได้โดยตลอด ทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงมีโอกาสทำประตูได้น้อย และมีเกมบุกที่ไม่หวือหวาเท่าไรนัก ทำให้ทั้งกองหลังและผู้รักษาประตูของมิลาน ไม่ต้องเหนื่อยมากนัก
แมนฯ ยูไนเต็ด มีลูกที่น่าจะได้ประตูในนาทีที่ 63 เมื่อรูนี่ย์ ได้เปิดบอลให้ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ ได้ยิง แต่บอลก็หลุดออกนอกกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งนั่นก็เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของแมนฯ ยูไนเต็ด ในนัดนี้
จากนั้น นาทีที่ 66 มิลาน ก็เปลี่ยนตัวโดยส่ง จิลาร์ดิโน่ ลงเล่นแทน อินซากี้ ที่เล่นไม่ออกในนัดนี้ และอีก 12 นาทีถัดมา เขาก็เป็นผู้ทำประตูปิดท้ายให้เอซี มิลาน เมื่อเขาได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปหน้าประตู และแปบอลผ่าน ฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าประตูไป สกอร์เพิ่มเป็น 3 – 0
แม้แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังคงพยายามอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ครองเกมไม่ได้ และจ่ายพลาดกันเองบ่อยครั้ง ทำให้จบเกมมิลาน เอาชนะไปได้ 3 – 0 ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับลิเวอร์พูล ที่เอเธนท์ (บรรยายเกมโดย โอปอล)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เอซี มิลาน
เนลสัน ดีด้า 1
มัสชิโม่ ออดโด้ 44
อเลสซานโดร เนสต้า 13
คาค่า คาลัดเซ่ 4
มาเร็ก แยนคูลอฟสกี้ 18
เจนนาโร่ กัตตูโซ่ 8 ( น. 83)
อันเดรีย ปิร์โล่ 21
คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ 10 ( น. 30)
มัสชิโม่ อัมโบรซินี่ 23 ( น. 75)
ริคาร์โด้ กาก้า 22 ( น. 11)
ฟิลิปโป้ อินซากี้ 9
สำรอง
เซลจ์โก้ คาลัช 16
มาร์กอส คาฟู 2 น. 84 เจนนาโร่ กัตตูโซ่ 8
จูเซ็ปเป้ ฟาวัลลี่ 19 น. 86 ริคาร์โด้ กาก้า 22
ดานิเอเล่ โบเนร่า 25
เคลาดิโอ ซาร์กินโญ่ 27
คริสเตียน บรอคคี่ 32
อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ 11 ( น. 78) น. 66 ฟิลิปโป้ อินซากี้ 9
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 1
จอห์น โอเชีย 22
เวส บราวน์ 6
เนมานย่า วิดิช 15
กาเบรียล ไฮน์เซ่ 4
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 84)
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
พอล สโคลส์ 18
ไมเคิล คาร์ริค 16
ไรอัน กิ๊กส์ 11
เวย์น รูนี่ย์ 8
สำรอง
โทมัสซ์ คุสซ์แซค 29
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
คีแรน ริชาร์ดสัน 23
คริส อีเกิ้ลส์ 33
หลุยส์ ซาฮา 9 น. 77 จอห์น โอเชีย 22
อลัน สมิธ 14
โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ 20
สถิติของเกม
เอซี มิลาน ประตู 3, ยิงตรงกรอบ 7, ยิงหลุดกรอบ 5, โดนบล็อค 1, เตะมุม 4, ฟาวล์ 14, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 2, การครองบอล 47.7%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประตู 0, ยิงตรงกรอบ 2, ยิงหลุดกรอบ 6, โดนบล็อค 5, เตะมุม 5, ฟาวล์ 22, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, การครองบอล 52.3%
คะแนนความสามารถ
เอซี มิลาน เนลสัน ดีด้า 6, มัสชิโม่ ออดโด้ 8, อเลสซานโดร เนสต้า 8, คาค่า คาลัดเซ่ 7, มาเร็ก แยนคูลอฟสกี้ 8, เจนนาโร่ กัตตูโซ่ 9, อันเดรีย ปิร์โล่ 7, คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ 9, มัสชิโม่ อัมโบรซินี่ 7, ริคาร์โด้ กาก้า 9, ฟิลิปโป้ อินซากี้ 6, มาร์กอส คาฟู (สำรอง) 6, จูเซ็ปเป้ ฟาวัลลี่ (สำรอง) 6, อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ (สำรอง) 7
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 7, จอห์น โอเชีย 6, เวส บราวน์ 6, เนมานย่า วิดิช 5, กาเบรียล ไฮน์เซ่ 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 5, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 6, พอล สโคลส์ 5, ไมเคิล คาร์ริค 5, ไรอัน กิ๊กส์ 4, เวย์น รูนี่ย์ 7, หลุยส์ ซาฮา (สำรอง) 6
Por